
แชร์เรื่องนี้
“ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” พลิกสถานการณ์จากที่ตามหลัง “กร นครปฐม” 2-5 เฟรม กลับมาเอาชนะไปอย่างสุดมันส์ 8-7 เฟรม คว้าแชมป์สนุกเกอร์ 6 แดง ประเทศไทย ประจำปี 2566 พร้อมคว้าสิทธิ์เป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์แอนด์มาเชียลอาร์ตเกมส์ ในปี 2567 ได้สำเร็จ
การแข่งขัน NSDF สนุกเกอร์ 6 แดง ชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2566 ที่ไอส์แลนด์ ฮอลล์ ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ เมื่อ 24 ก.ย.66 เป็นเกมในรอบชิงชนะเลิศ ใช้ระบบ 8 ใน 15 เฟรม ก่อนเกมคู่ชิงชนะเลิศ เป็นการแข่งขันคู่พิเศษ ชิงดำ 6 แดง ระบบ 3 ใน 5 เกม ระหว่าง ยอดนักร้องชื่อดัง “รุ่ง สุริยา” เจ้าของเพลง รักจริงให้ติงนัง และ เพลง วอนตากสิน กับ สมรักษ์ คำสิงห์ นักมวยเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ เจ้าของวลียอดฮิต “ไม่ได้โม้” โดยมีศิลปินตลก สุเทพ สีใส เป็นกรรมการ ผลปรากฏว่า คู่นี้เป็นทางด้าน “รุ่ง สุริยา” แทงแม่นกว่า โดยเฉพาะเกมที่ 3 ลูกดำจ่อปากหลุม แต่ สมรักษ์ คำสิงห์ แทงลูกดำตกโต๊ะ ส่งผลให้ รุ่ง สุริยา เอาชนะไป 3-0 เกม
จากนั้นเป็นการแข่งขันคู่ชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่าง “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” วัฒนา ภู่โอบอ้อม กับ “กร นครปฐม” ภาสกร สุวรรณวัฒน์ โดยในรอบรองชนะเลิศ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย เอาชนะ ประมวล จันทร์ทัด หรือ แมน เมืองสมุทร มา 7-0 เฟรม ขณะที่ ภาสกร สุวรรณวัฒน์ เอาชนะ สุชาครีย์ พุ่มแจ้ง หรือ “ขวัญ สระบุรี” มา 7-1 เฟรม โดยผู้คว้าแชมป์รายการนี้ นอกจากได้รับเงินรางวัล 240,000 บาทแล้ว ยังจะได้สิทธิ์เป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์เอเชีย, ชิงแชมป์โลก และ ได้สิทธิ์เป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมแข่งขันสนุกเกอร์ กีฬาเอเชียนอินดอร์ แอนด์ มาเชียลอาร์ตเกมส์ ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2567
เปิดเฟรมแรก “กร นครปฐม” แทงได้อย่างร้อนแรง ออกมาแทงไม้เดียวหมดโต๊ะ เอาชนะได้ก่อน 70-0 ขึ้นนำ 1-0 ก่อนในเฟรมที่สอง “กร” ที่ออกมาแทงกันไม่ดี เปิดโอกาสให้ “ต๋อง” ออกมากวาดไม้เดียว 40 แต้ม และยังมีโอกาสเก็บสีที่เหลือ ทำให้กลับมาเอาชนะได้บ้าง 60-8 เสมอกัน 1-1 เฟรม
เฟรมที่สาม และ เฟรมที่สี่ ยังผลัดกันชนะคนละเฟรม ทำให้เสมอกัน 2-2 เฟรม จากนั้น “กร นครปฐม” เก็บเพิ่มได้ติดต่อกันอีก 3 เฟรม ทำให้ขึ้นนำ 5-2 เฟรม แต่ “ต๋อง” ก็มาแก้คืนได้ 2 เฟรม ทำให้ไล่ตามมาเป็น 4-5 เฟรม และในเฟรมที่ 10 “กร นครปฐม” ชนะได้อีกทำให้ “กร นครปฐม” หนีห่างไป 6-4 เฟรม
“ต๋อง” กลับมาเอาชนะได้ 2 เฟรมติดต่อกัน ทำให้เสมอกัน 6-6 เฟรม และเก็บกันได้อีกคนละเฟรม เสมอ 7-7 เฟรม เข้าเฟรมสุดท้ายทั้งคู่ ต่างแทงกันอย่างระมัดระวัง โดย “ต๋อง” เน้นแทงกันให้ “กร” ออกมาสู้ ก่อนจะพลาด สุดท้ายเป็น “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” เก็บ เขียว-ชมพู เอาชนะไปในที่สุด 8-7 เฟรม (0-70, 60-8, 0-50, 32-25, 7-66, 0-69,1-46, 42-3, 41-0, 8-40, 28-13, 42-0, 14-38, 57-5 และ 31-17 ) คว้าแชมป์ไปครองพร้อมเงินรางวัล 240,000 บาท ด้านรองแชมป์ ภาสกร สุวรรณวัฒน์ ได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท
แชร์เรื่องนี้ Share on fa
แชร์เรื่องนี้ Share on fa
แชร์เรื่องนี้ Share on fa
แชร์เรื่องนี้ Share on fa
แชร์เรื่องนี้ Share on fa
แชร์เรื่องนี้ Share on fa
แชร์เรื่องนี้ Share on fa
แชร์เรื่องนี้ Share on fa
แชร์เรื่องนี้ Share on fa