ผลการพบกันทั้ง 2 ทีม
UEFA CL 29/09/21 เรอัล มาดริด 1-2 เชอร์ริฟ ติราสโพล
MOL D1 20/11/21 เอฟซี ฟลอเรชติ 1-3 เชอร์ริฟ ติราสโพล
MOL D1 06/11/21 เชอร์ริฟ ติราสโพล 6-0 ซิมบรู
UEFA CL 04/11/21 เชอร์ริฟ ติราสโพล 1-3 อินเตอร์ มิลาน
MOL D1 31/10/21 ซีเอส เปโตรคุบ 0-2 เชอร์ริฟ ติราสโพล
Mol Cup 27/10/21 เชอร์ริฟ ติราสโพล 6-0 ซาซาน
SPA D1 21/11/21 กรานาดา 1-4 เรอัล มาดริด
SPA D1 07/11/21 เรอัล มาดริด 2-1 ราโย่ บาเยกาโน่
UEFA CL 04/11/21 เรอัล มาดริด 2-1 ชักตาร์ โดเน็ตส์ก
SPA D1 30/10/21 เอลเช่ 1-2 เรอัล มาดริด
SPA D1 28/10/21 เรอัล มาดริด 0-0 โอซาซูน่า
เชอร์ริฟ ติราสโพล ทีมรองจ่าฝูงดิวิซี่ นาซิอองนาล่า มอลโดว่า อาจแพ้ อินเตอร์ มิลาน เหย้า-เยือน แต่ยังรั้งอันดับ 3 ของกลุ่ม ดี ในแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม จากผลงานคว้าชัย 3 เกม และคว้า 6 คะแนน ทำให้ยังสามารถมีลุ้นถึงตำแหน่งแชมป์กลุ่มใน 2 เกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม แมตช์เทรนเนอร์ชาวยูเครน ยูรี่ เวอร์นิดุบ มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพียง ลอฟโร่ บิซยัค
การจัดทีมในระบบ 4-3-3 ยังออกสตาร์ทด้วย แฟร้งค์ กาสตันเญด้า, เซบาสเตียน ธิลล์, ดานิโล่ อาร์โบเลด้า, ดิมิทริส โคโลวอส, เอ็ดมุนด์ อัดโด้, ยาซูร์เบค ยัคชิโบเยฟ และ อดาม่า ตราโอเร่ โดยมี อเล็กซานเดอร์ เบลูซอฟ, โมโม่ ย็องซาเน่, โบบัน นิโคลอฟ, สเตฟาน ราเดลยิช, เคสตัน จูเลียน, บรูโน่ ดา ซิลวา และ จอห์น ชาลส์ เปโตร เป็นตัวสนับสนุน
เรอัล มาดริด จ่าฝูงลาลีกา สเปน และจ่าฝูงกลุ่ม ดี กำชัย 3 เกม และแพ้ 1 ทำให้เก็บ 9 คะแนนจากการลงสนาม 4 นัด แมตช์นี้โค้ชชาวอิตาเลียน คาร์โล อันเชล็อตติ ต้องขาด แกเร็ธ เบล เจ็บซ้ำอีก รวมทั้งยังไม่มี เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ กับ ดานี่ เซบายอส บาดเจ็บ และ เอแด็น อาซาร์ ไม่สมบูรณ์
การจัดทีมตามแผน 4-3-3 จะกลับมาประจำการด้วย ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส และ คาร์ลอส คาเซมิโร่ ในแผงมิดฟิลด์ ส่วน 3 แนวรุกวาง คาริม เบนเซม่า, วีนิซิอุซ จูเนียร์ และ มาร์โก อาเซนซิโอ พร้อมมี อิสโก้, ลูกัส บาซเกซ, นาโช่ เฟร์นานเดซ, มาเรียโน่ ดิอาซ, มาร์เซโล่, ลูก้า โยวิช, เฆซุส บาเยโฆ่, อันโตนิโอ บลังโก้, มิเกล กูเตียร์เรซ, โรดริโก้ โกเอส และ เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า เป็นตัวสอดแทรก
เชอร์ริฟ ติราสโพล (4-3-3) : จอร์จอส อธานาเซียดิส – แฟร์นานโด คอสตันซ่า, ดานิโล่ อาร์โบเลด้า, กุสตาโว่ ดูลันโต้, คริสเตียโน่ ดา ซิลวา – ดิมิทริส โคโลวอส, เอ็ดมุนด์ อัดโด้, เซบาสเตียน ธิลล์ – อดาม่า ตราโอเร่, แฟร้งค์ กาสตันเญด้า, ยาซูร์เบค ยัคชิโบเยฟ
เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ – ดานี่ การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, ดาวิด อลาบา, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ – คาร์ลอส คาเซมิโร่, ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส – โรดริโก้ โกเอส, วีนิซิอุซ จูเนียร์, คาริม เบนเซม่า
เจ้าบ้าน เชอร์ริฟ ติราสโพล ยังมีโอกาสเข้ารอบ แต่เงื่อนไขเยอะเหลือเกิน เกมนี้ต้องคว้าชัยให้ได้เท่านั้น แล้วไปลุ้นให้อินเตอร์แพ้อีก ซึ่งดูแล้วความเป็นไปได้น้อยมาก แม้ว่าอยู่ในช่วงทำผลงานได้อย่างมั่นใจก็ตาม เพราะทางด้าน เรอัล มาดริด ก็เน้นมากเช่นกัน แถมอยู่ในช่วงกำลังมั่นใจ ชนะรวดมา 4 เกมติด อีกทั้งศักยภาพเหนือกว่าบานเบอะด้วย ทำให้เชื่อว่าเกมนี้ “เรอัล มาดริด” เน้มมากเป็นพิเศษ และกำลังฮอตจะบุกรัว เชอร์ริฟ คืนได้แน่
