ทีมชาติอังกฤษ ทำผลงานในรอบแบ่งกลุ่มได้ค่อนข้างดี ลงเล่นไป 3 เกม ชนะ 2 เสมอ 1 ยังไม่แพ้ใคร เก็บได้ทั้งหมด 7 คะแนน ยิงประตูคู่แข่งไปถึง 9 ประตู เป็นทีมที่ยิงประตูได้เยอะที่สุดในรอบคัดเลือก คว้าแชมป์กลุ่ม B เข้ารอบมาได้อย่างสวยงาม ขุมกำลังนักเตะตอนนี้เริ่มลงตัวมากขึ้น เกมรับจากที่พลาดง่ายๆเสีย 2 ประตูในนัดแรก จากนั้นก็ไม่เสียประตูอีกเลย แฮร์รี แม็คไกวร์ เล่นได้อย่างแข็งแกร่ง ช่วยป้องกันจังหวะอันตรายได้หลายครั้ง นอกจากนี้ยังได้ ไคล์ วอล์กเกอร์ หายเจ็บกลับมาเพิ่มความแน่นอนอีกคน ในส่วนของแนวรุกเป็นปัญหาที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ต้องตัดสินใจ เมื่อทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด และฟิล โฟเด้น มีโอกาสแล้วโชว์ฟอร์มได้ดีมาก จึงต้องคิดหนักว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่ควรเป็นตัวจริง

ทีมชาติเซเนกัล เป็นหนึ่งในสองทีมตัวแทนจากทวีปแอฟริกา ที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมาได้ ลงเล่นไปแล้ว 3 เกม ชนะ 2 แพ้ 1 เก็บได้ทั้งหมด 6 คะแนน เข้ารอบมาด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม A แม้ว่าการมาเล่นในครั้งนี้จะขาดดาวยิงตัวเก่ง ซาดิโอ มาเน่ แต่ถึงตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก โดยการลงเล่นสองเกมล่าสุด ยิงประตูคู่แข่งไปได้ถึง 5 ประตู จากทั้งกองหน้า และกองหลัง โดยที่นักเตะไม่ซ้ำกันเลย แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีพิษสงอยู่รอบตัว เมื่อขาดนักเตะตัวความหวังสูงสุด ทุกคนจึงต้องรวมพลังช่วยกันเล่นไม่ได้พึ่งพาแค่คนใดคนหนึ่ง ผลงานโดยรวมจึงออกมาดีกว่าที่คาดเอาไว้มาก

เกมนี้เป็นคู่ที่น่าสนใจมาก เป็นการเจอกันระหว่าง ยุโรป vs แอฟริกา สไตล์การเล่นก็ค่อนข้างแตกต่างกัน ทีมชาติอังกฤษ มีนักเตะแนวรุกฝีเท้าดีหลายคน แต่มักจะเล่นแบบปลอดภัย ไม่เล่นเกมเสี่ยงมากเท่าไร ส่วนทีมชาติเซเนกัล นักเตะแข็งแรง เล่นบอลหนัก เข้าปะทะได้แบบไม่เกรงกลัว มีทีเด็ดเกมรุกใช้โอกาสไม่เปลือง แม้ว่าจะมีนักเตะหลายคนเล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีก แต่ถ้าวัดกันเรื่องคุณภาพ และความสามารถนักเตะ ยังเป็นรองทีมชาติอังกฤษอยู่เยอะพอสมควร อยู่ที่นักเตะสิงโตคำรามจะเด็ดขาดมากแค่ไหน รูปเกมน่าจะสู้กันได้สนุกสูสี แต่สุดท้ายแล้วทีมชาติอังกฤษมีโอกาสจะเบียดเก็บชัยชนะได้มากกว่า