29 กพ 2020 บอร์นมัธ 2 – 2 เชลซี (พรีเมียร์ ลีก)
14 ธค 2019 เชลซี 0 – 1 บอร์นมัธ (พรีเมียร์ ลีก)
30 มค 2019 บอร์นมัธ 4 – 0 เชลซี (พรีเมียร์ ลีก)
19 ธค 2018 เชลซี 1 – 0 บอร์นมัธ (ลีก คัพ)
01 กย 2018 เชลซี 2 – 0 บอร์นมัธ (พรีเมียร์ ลีก)
29 ตค 2022 แพ้ ไบรท์ตัน 1-4 (เยือน , พรีเมียร์ ลีก)
02 พย 2022 ชนะ ดินาโม ซาเกร็บ 2-1 (เหย้า , แชมเปี้ยนส์ ลีก)
06 พย 2022 แพ้ อาร์เซน่อล 0-1 (เหย้า , พรีเมียร์ ลีก)
09 พย 2022 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-2 (เยือน , คาราบาว คัพ)
12 พย 2022 แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-1 (เยือน , พรีเมียร์ ลีก)
29 ตค 2022 แพ้ สเปอร์ส 2-3 (เหย้า , พรีเมียร์ ลีก)
05 พย 2022 แพ้ ลีดส์ 3-4 (เยือน , พรีเมียร์ ลีก)
08 พย 2022 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 4-1 (เหย้า , คาราบาว คัพ)
12 พย 2022 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-0 (เหย้า , พรีเมียร์ ลีก)
20 ธค 2022 แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-1 (เยือน , คาราบาว คัพ)
แกรม พ็อตเตอร์ ผู้จัดการทีม เชลซี พาทีมอยู่เพียงอันดับ 8 จำเป็นต้องเร่งฟอร์มถ้าหวังไป แชมเปี้ยนส์ ลีก
ความพร้อมเกมนี้จะขาดตัวที่เจ็บทั้ง อาร์มันโด้ โบรจ้า , เวสลี่ย์ โฟฟาน่า และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ยังดีที่ได้ รีซ เจมส์ กลับมาพร้อมช่วยทีม ด้าน มาเตโอ โควาซิช และ ฮาคีม ซีเยช ยังไม่กลับมารายงานจากฟุตบอลโลก การจัดทีมจะยึดตัวหลักอย่าง มาร์ค คูคูเรย่า , จอร์จินโญ่ และ เมสัน เมาน์ท นำทัพ
แกรี่ โอนีลล์ ผู้จัดการทีม บอร์นมัธ นำทีมรั้งอยู่อันดับ 14 เหนือโซนสีแดง 3 คะแนน
สภาพทีมนั้นหวังจะได้ เจฟเฟอร์สัน เลร์มา หายเจ็บเข่ากลับมาช่วยทีมได้ ด้าน ลอยด์ เคลลี่ กัปตันทีมซ้อมแล้วพร้อมลงสนาม การจัดทีมจะใช้แกนหลักอย่าง อดัม สมิธ , เจฟเฟอร์สัน เลร์มา และ ฟิลิป บิลลิ่ง นำทัพ
เชลซี (4-3-3) : เกปา อาร์ริซาบาลาก้า – เทรเวอร์ ชาโลบาห์ , ติอาโก้ ซิลวา , คาลิดู คูลิบาลี่ – รีซ เจมส์ , จอร์จินโญ่ , คอเนอร์ กัลลาเกอร์ , มาร์ค คูคูเรย่า – เมสัน เมาน์ท , ราฮีม สเตอร์ลิ่ง , ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมย็อง
บอร์นมัธ (4-4-2) : มาร์ค ทราเวอร์ส – อดัม สมิธ , คริส เมฟาม , มาร์กอส เซเนซี่ , จอร์แดน เซมูร่า – เจฟเฟอร์สัน เลร์มา , ลูวิส คุก – มาร์คัส ทาเวเนียร์ , ฟิลิป บิลลิ่ง , ไรอัน คริสตี้ – โดมินิค โซลันกี้