เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ถือว่าโชว์ฟอร์มได้ดีตามคาด หลังจากที่เปิดบ้านเอาชนะ ชรูว์สบิวรี่ ในเกมเอฟเอ คัพ ได้ถึง 4-1 แถมมิดฟิลด์อย่าง ฟาบินโญ่ ซัดไป 2 ประตูอีกด้วย ส่วนสภาพความพร้อมของทีมนัดนี้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ติอาโก้ อัลกันตาร่า, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ และ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ที่ยังบาดเจ็บ รวมไปถึง ซาดิโอ มาเน่, นาบี เกอิต้า และ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ที่ไปช่วยทีมชาติลุยศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ โดยนัดนี้คาดว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ จัดทัพลงเล่นในระบบหลัก 4-3-3 พร้อมส่งตัวรุกอย่าง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ ดิโอโก้ โชต้า ลงล่าสกอร์ โดยจะมีมิดฟิลด์ตัวหลักอย่าง ฟาบินโญ่ กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน คอยคุมแดนกลาง

ส่วนทีมเยือน อาร์เซน่อล ภายใต้การคุมทีมของ มิเกล อาร์เตต้า นั้นถือว่าโชว์ฟอร์มได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยผลงานนัดที่ผ่านมา พลาดท่าบุกไปแพ้ทีมอ่อนกว่าอย่าง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในเกมเอฟเอ คัพ 1-0 ส่วนสภาพความพร้อมของทีมนัดนี้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โฟลาริน บาโลกัน ที่ติดโควิด-19 รวมไปถึง โมฮาเหม็ด เอลเนนี, ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, โธมัส ปาร์เตย์ และ นิโคลัส เปเป้ ที่ไปช่วยทีมชาติลุยศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ โดยนัดนี้คาดว่า มิเกล อาร์เตต้า จะจัดทัพลงเล่นในระบบหลัก 4-2-3-1 พร้อมวาง อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ เป็นหน้าเป้าตัวจบสกอร์ โดยจะมีตัวรุกอย่าง บูกาโย ซาก้า, เอมิล สมิธ โรว์ และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ คอยประสานงานอยู่ด้านหลัง

ศึก “คาราบาว คัพ” รอบรองชนะเลิศ นัดนี้เชื่อว่า ลิเวอร์พูล น่าจะเปิดบ้านเอาชนะ อาร์เซน่อล ได้ไม่ยาก ถึงแม้จะขาดแกนหลักอย่าง ซาดิโอ มาเน่ กับ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ไป แต่ก็ยังมีตัวรุกเก่งๆ ให้เลือกใช้งานอยู่ แถมพวกเขายังเป็นต่อในเรื่องของระบบการเล่นและความเก๋าของกุนซือ ประกอบกับทางด้านของ อาร์เซน่อล นั้นกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มหลุด หลังพาทีมสะดุดแพ้มา 2 นัดติด ขณะที่ฟอร์มการเล่นนอกบ้านของทีมก็ทำได้ไม่ดีเอาซะเลย แถมการที่ต้องออกไปเจอกับ ลิเวอร์พูล ในถิ่น “แอนฟิลด์” นั้นยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ทำให้นัดนี้เชื่อว่า ลิเวอร์พูล ดูดีกว่า น่าจะเป็นฝ่ายเฉือนเอาชนะ อาร์เซน่อล ได้ก่อนในเกมเลกแรก