เจ้าถิ่น มิลล์วอลล์ ภายใต้การคุมทีมของ แกรี่ โรเว็ตต์ เพิ่งจะหักปากกาเซียนมาหมาดๆ หลังจากที่เอาชนะ เวสต์บรอมวิช มา 0-2 ด้วยลูกยิงของ เมสัน เบนเนต และ เบนิค อโฟบี้ ส่วนสภาพความพร้อมของทีมนัดนี้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เชยี่ โอโจ้, ไรอัน ลีโอนาร์ด, เจ็ด วอลเลซ, ทอม แบรดชอว์, จอร์จ ซาวิลล์ และ แดเนียล บัลลาร์ด ที่มีอาการบาดเจ็บ โดยนัดนี้คาดว่ากุนซือใหญ่อย่าง แกรี่ โรเว็ตต์ จะจัดทัพลงเล่นในระบบ 3-4-3 พร้อมวาง เบนิค อโฟบี้, โอลิเวอร์ เบิร์ค และ เมสัน เบนเนต เป็นทีเด็ดในแดนหน้า
ส่วนทีมเยือน เปรสตัน ภายใต้การคุมทีมของ ไรอัน โลว์ นั้นถือว่าโชว์ฟอร์มได้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยผลงานนัดที่ผ่านมา เปิดบ้านเสมอกับ บริสตอล ซิตี้ 2-2 แถมศูนย์หน้าอย่าง เอมิล รีส์ จาคอปสัน ซัดไป 2 ประตูอีกด้วย ส่วนสภาพความพร้อมของทีมนัดนี้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อิซซี บราวน์ กับ จอช เมอร์ฟี ที่ยังบาดเจ็บ ขณะที่ แดเนียล จอห์นสัน นั้นก็ไปช่วยทีมชาติจาเมกา ลุยศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โดยนัดนี้คาดว่ากุนซือใหญ่อย่าง ไรอัน โลว์ จะจัดทัพลงเล่นในระบบ 3-4-1-2 พร้อมวาง คาเมรอน อาร์เชอร์ กับ เอมิล รีส์ จาคอปสัน เป็นคู่กองหน้าคอยล่าสกอร์ และจะมีกัปตันทีมอย่าง อลัน บราวน์ เล่นเป็นหน้าต่ำ
นัดนี้เชื่อว่า เปรสตัน มีโอกาสพาทีมบุกไปเฉือนเอาชนะ มิลล์วอลล์ ได้สูงมาก เนื่องจากทางด้านของเจ้าถิ่น มิลล์วอลล์ นั้นยังคงอยู่ในช่วงฟอร์มแย่ หลังพาทีมสะดุดแพ้ถึง 4 จาก 5 นัดหลังสุด แถมสภาพความพร้อมของทีมก็ยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ เพราะมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บคอยรบกวนอยู่ถึง 6 คน ซึ่งต่างจากทางด้านของ เปรสตัน ที่ผู้เล่นตัวหลักอยู่กันเกือบครบ แถมฟอร์มการเล่นของทีมก็ดูดีขึ้นเรื่อยๆ หลังพาทีมสะดุดแพ้แค่นัดเดียวเท่านั้น ตลอด 7 นัดหลังสุดในเกมลีก ซึ่งเมื่อพิจารณาจากภาพรวมของทั้งสองทีมแล้ว มองว่าทีมเยือน เปรสตัน ฟอร์มดีกว่า น่าจะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะไปครองได้ในนัดนี้